วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

ปลุกพลังไทย ร่วมใจรักษ์พลังงาน

ไม่ใช่เรื่องใหม่หากจะบอกว่าเวลาเข้าไปชมภาพยนตร์ในโรงหนังแล้วต้องพร้อมใจ กันยืนแสดงความเคารพเมื่อบทเพลงสรรพเสริญพระบารมีดังขึ้น ทว่าที่ผ่านมาเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สื่อ ออกมามักนำเสนอโดยภาพรวม งานนี้กระทรวงพลังงานอยากให้คนไทยร่วมสำนึกและชื่นชมในพระอัจริยภาพด้าน พลังงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเปิดตัวโครงการพลังความสุขจากพ่อของแผ่นดิน ในรูปแบบภาพยนตร์เทิดพระเกียรติชุด "พระเจ้าอยู่หัวกับพลังงานทดแทน" ประกอบเพลงสรรเสริญพระบารมี ฉายทุกโรงภาพยนตร์



ในฐานะที่ปรึกษากระทรวงพลังงาน สุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการนำเสนอให้คนไทยได้ชื่นชมในพระปรีชาสามารถ และพระอัจฉริยภาพด้านพลังงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงริเริ่มคิดค้นเรื่องพลังงานทดแทนตั้งแต่ยังไม่มีวิกฤติพลังงาน แต่ด้วยพระวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลซึ่งทรงเล็งเห็นว่าวันข้างหน้าเรื่องพลังงานจะทวีความสำคัญขึ้นตามความเจริญของประเทศจึงทรงวางแนวทางด้านพลังงานไว้

"แนวพระราชดำริของพระองค์ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยยกระดับสินค้าเกษตรที่นำมาใช้เป็นพลังงานทด แทนจำพวก ไบโอดีเซล แก๊สโซฮอลล์ ไม่ว่าจะเป็นอ้อย ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ได้ 4-5 เท่า สอดคล้องกับแนวคิดที่ว่าโลกจะอยู่รอดได้ต้องเลี่ยงพลังงานที่ เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบทเรียนที่ญี่ปุ่นมีให้เห็นมาแล้ว นับจากนี้ต้องเลือกพลังงงานทดแทนเท่านั้น ซึ่งในภาพยนตร์คนไทยจะได้เห็นและร่วมชื่นชมในพระอัฉริยภาพดังกล่าว" หัวเรือใหญ่ กล่าว

ภายในงานแถลงข่าวบริเวณอินฟินิตี้ฮอลล์ พารากอน ซินิเพล็กซ์ ยังมีกิจกรรม "แซ่ซ้อง...ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี" เชิญ 84 คนดังจากทุกภาคหน่วยงานต่างๆ มาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่ง "ไข่มุก" ชุติมา ดุรงค์เดช มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ปี 2552 บอกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางแนวทางการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทด แทนไว้หลายโครงการ รู้สึกประทับใจที่พระองค์ทรงมีพระวิสัยทัศน์ไกลที่คนธรรมดาอาจคิดไม่ถึง จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยร่วมกัยสนองแนวพระราชดำริพลังงานอะไรที่ประหยัดได้ก็ควรทำ

ขณะ ที่ "ป๊อป" วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ เล่าว่าตั้งแต่เด็กๆ ก็ได้เห็นความมีวิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อยมา โดยเฉพาะด้านพลังงานทรงใช้ธรรมชาติเพื่อดูแลธรรมชาติ อย่างพืชพลังงานทดแทนก็มีการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง

"เชื่อ ว่าทุกคนตระหนักว่าโลกร้อน แล้วหันมาใส่ใจอย่างจริงจัง ที่สำคัญคนเดียวคงทำได้ยาก ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วม เพราะโลกใบนี้เป็นของทุกคน หากช่วยกันแล้วจะไม่มีค่ำว่าสายเกินแก้" หนุ่มหัวใจรักษ์พลังงาน ทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น