วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ออกแบบการสร้างหรือปรับปรุงอาคารให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน หรือ อาคารสีเขียว

จากภาวะวิกฤติด้านพลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิงฟอสซิล และค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับขึ้นทุกปี ทำให้ส่งผลกระทบต่อหลายองค์กรและหน่วยงานที่ใช้พลังงานเป็นหลัก ได้แก่ภาคอุตสาหกรรม รองลงมาคือ ภาคการขนส่ง และบ้านพักอาศัย

ส่วนการใช้พลังงานของภาคธุรกิจ การค้า และสำนักงานนั้นก็ไม่น้อยหน้ามีการใช้พลังงานสูงถึงร้อยละ 7 ของการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายหน่วยงานร่วมกันหาแนวทางในการลดการใช้พลังงานของ องค์กรตัวเองด้วยการสร้างหรือปรับปรุงอาคารให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและ อาคารสีเขียวเพื่อเป็นแบบที่ดี

เมื่อก่อนการปลูกสร้างอาคารในเมือง จะให้ความสำคัญด้านธุรกิจการตลาด และความคุ้มทุน เป็นลำดับแรก ๆ แต่ในปัจจุบันแนวคิดดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนไป มีการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการประหยัดพลังงานภายในองค์กร และปัญหาเรื่องภาวะโลกร้อน

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าในการออกแบบ และวางผังอาคาร สถาปนิกจะต้องพิจารณาวิธีการก่อสร้างอาคารที่เหมาะสมกับพื้นที่ และเน้นด้านการประหยัดพลังงานควบคู่ไปด้วย บางหน่วยงานผู้บริหารจะหันมาสนใจดูแลทุกข์สุขของพนักงานมากขึ้น โดยจัดสำนักงานให้เป็นอาคารสีเขียว เน้นในเรื่องของการพึ่งพาธรรมชาติให้มากที่สุด โดยการออกแบบให้มีต้นไม้ที่ช่วยสร้างร่มเงาให้อาคาร ทั้งไม้ยืนต้น พุ่มสูง พุ่มเตี้ย และไม้คลุมดินประกอบกัน

ถ้าเวลาหนึ่งในสามของวันคือการนั่งทำงานอยู่ในสำนักงาน ระหว่างนี้เราได้เติมเต็มความสุขและความสะดวกสบายให้กับตนเองอย่างไรบ้าง???

จะดีไหม หากจะลดความสะดวกลงบ้าง ด้วยการพิจารณา หยุดคิดก่อนที่จะทำตามความคุ้นเคยแบบเก่า ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่จะช่วยลด ละ การบริโภคทรัพยากรมากเกินความจำเป็น ด้วย วิธีการง่าย ๆ ที่ทุกคนก็สามารถทำได้ อาทิ

** ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียล ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่กำลังสบาย อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศา ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10

** ปลูกต้นไม้รอบ ๆ อาคาร เพราะต้นไม้ขนาดใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน หรือให้ความเย็นประมาณ 12,000 บีทียู

** ในสำนักงานให้ปิดไฟ ปิดเครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ไม่จำเป็นในช่วงเวลาพักเที่ยง จะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้

** ลด ละ เลี่ยง การใส่สูท เพราะไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองร้อน สิ้นเปลืองการตัด ซัก รีด และความจำเป็นในการเปิดเครื่องปรับอากาศ

** ลดการสูญเสียกระดาษเพิ่ม ด้วยการใช้กระดาษสองหน้า และหลีกเลี่ยงการใช้กระดาษปะหน้าโทรสาร ชนิดเต็มแผ่น และหันมาใช้กระดาษเล็ก ที่สามารถพับบนโทรสารได้

** กระตุ้นเตือนให้พนักงานช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยการติดสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายให้ช่วยประหยัดไฟ ตรงบริเวณใกล้สวิตช์ไฟ เพื่อเตือนให้ปิดเมื่อเลิกใช้แล้ว

เริ่มคิดและลงมือตั้งแต่วันนี้ เพราะพฤติกรรมของแต่ละคนล้วนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งในวันนี้และวัน ข้างหน้า.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=509&contentId=110474

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น